สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร
1.บทนำ
การสร้างอุทยานหนองหารหลวง
จะเป็นหนึ่งในโครงพัฒนาหนองหารให้เป็นแหล่งที่มีทัศนียภาพที่งดงาม เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์เชิงตำนานการเกิดขึ้นของเมืองสกลนคร
เพราะอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวเชิงตำนานสำคัญๆเช่น น้ำพุธรรมชาติ ที่เป็นสิ่งแสดงบุญญาธิการของเจ้าเมืองหนองหารหลวง
พระขรรค์และน้ำพุ เกิดขึ้นพร้อมกับการประสูติของพระยาสุรอุทก ท่านางอาบ และบ้านท่าวัดซึ่งในอดีตเคยเป็นเมืองเก่าที่เจริญรุ่งเรืองโดยค้นพบหลักฐานมากมาย ทั้งเรื่องราวของพญานาคผู้มีมหิทธิฤทธิ์คุ้มครองปกปักรักษาหนองหาร จะกลาย
เป็นแหล่งพักผ่อนทั้งทางร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี
เป็นศูนย์ประพฤติปฏิบัติธรรมที่สามารถดึงดูดนักปฏิบัติธรรมและนักท่องเที่ยวทางธรรมะสู่จังหวัดสกลนครอีกแห่งหนึ่ง สมกับคำขวัญเมืองสกลนครว่า “ถิ่นมั่นในพุทธธรรม”
การสร้างพระมหาเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระเกศาสมเด็จย่านั้น
ถือได้ว่าสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นมหามงคลที่จะสร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่บ้านเมืองทั้งแก่ประเทศชาติและพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบไป
สามารถเป็นที่พึ่งที่ระลึกทางจิตใจอันประเสริฐจะก่อเกิดประโยชน์แก่สรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่าทั้งเหล่าทวยเทพเทวดาและมนุษย์
ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีนั้น
ยังทรงเป็นผู้ใฝ่ในการศึกษาและประพฤติปฏิบัติธรรมโดยตลอด ทรงนำหลักธรรมมาให้การอบรมสั่งสอนพระโอรสธิดา จนปวงชนชาวไทยมีพระมหากษัตริย์ที่งดงาม
ทรงประกอบด้วยธรรมคือทศพิธราชธรรม
บำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงประชาอย่างมิเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยแต่ประการใด
การสร้างพุทธอุทยานเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมจึงนับเป็นการเฉลิมพระเกียรติที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับการเป็นผู้ใฝ่ธรรมและปฏิบัติธรรมของพระองค์ และพุทธอุทยานแห่งนี้ยังจะกลายเป็นสิ่งสำคัญอีกแห่งหนึ่ง
เพราะเป็นพระมหาเจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระเกศาของสมเด็จย่าหนึ่งเดียวในประเทศไทย
เสมือนดั่งพระตำหนักภูพานราชนิเวสน์ที่มีเพียงแห่งเดียวในภาคอีสาน นับเป็นการเฉลิมพระเกียรติที่จะเกิดประโยชน์ได้อย่างยิ่งใหญ่ไพศาล
จากเหตุผลดังกล่าว
ทางคณะสงฆ์และชาวจังหวัดสกลนครและพสกนิกรผู้มีความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
จึงได้พร้อมใจกันจัดทำโครงการก่อสร้าง “พุทธอุทยานหนองหารหลวง”
ขึ้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา สังคมชาติบ้านเมืองประชาชนทั่วไป